หากคุณกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนแบบไทยๆ เพื่อการผ่อนคลาย ลองเลี้ยวออกจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพบกับชายหาดที่สะอาดบริสุทธิ์ วัดบนยอดเขา และน้ำตกที่หลั่งใหลเป็นรางวัล ประจวบคีรีขันธ์มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างตามที่นักท่องเที่ยวสมัยใหม่ต้องการ แต่ก็ยังคงรักษาเสน่ห์เก่าแก่ของจังหวัดเอาไว้ได้
แม้จะยังเป็นจังหวัดที่มีวิถีชีวิตไม่เร่งรีบ แต่ประจวบคีรีขันธ์ก็เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางท่องเที่ยวที่มีการเชื่อมต่อเป็นอย่างดีและไม่ได้เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่ซบเซาอย่างในอดีตอีกต่อไป จังหวัดนี้อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงไม่กี่ชั่วโมงโดยรถยนต์และสามารถเข้าถึงได้ง่ายทางถนนหรือทางรถไฟ ซึ่งทำให้กลายเป็นที่สำหรับหลบหนีออกจากเมืองที่ได้รับความนิยม
จ้างคนขับรถตุ๊กตุ๊กให้พาชมพื้นที่บางส่วนเพิ่มเติม เริ่มต้นที่วัดธรรมมิการามวรวิหารซึ่งเป็นวัดบนเชิงเขาที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง พื้นที่ภูเขาด้านหลังหมู่บ้านเป็นเสมือนความฝันของนักผจญภัย จากเขาช่องกระจก มองออกไปยังอ่าวไทยและปลายด้านใต้ของพม่า (เมียนมาร์) ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง มุ่งหน้าไปยังยอดเขาในอุทยานแห่งชาติหาดวนกรเพื่อดูลิงขนาดเล็กและน้ำตกที่สูงตระหง่าน เตรียมอุปกรณ์ว่ายน้ำของคุณให้พร้อมและจองทริปแบบครึ่งวันเพื่อไปยังน้ำตกห้วยยางที่มีทั้งหมดเจ็ดชั้น
อาบแดดให้ผิวของคุณเป็นสีแทนบนชายหาดยาวเหยียดที่สะอาดบริสุทธิ์และมีลักษณะพิเศษของคาบสมุทรมลายู ดำน้ำในน้ำที่อบอุ่นของหาดในเกาะทะลุหรือที่หาดของอ่าวมะนาว หากคุณเริ่มหิว คุณสามารถสั่งอาหารริมทางที่มีรสจัดจ้านขณะที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ชายหาดที่แสนสบายได้ เมื่อเดินทางกลับเข้าไปในเมือง ตลาดกลางคืนบนถนนก้องเกียรติเป็นที่ที่มีราคาถูกกว่าสำหรับการลองชิมอาหารทะเลและก๋วยเตี๋ยวท้องถิ่นรสอร่อย
สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ มายังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ทางถนนหรือทางรถไฟ หรือนั่งรถโดยสารปรับอากาศที่วิ่งเป็นประจำในเส้นทางนี้ นอกจากนี้ ประจวบคีรีขันธ์ยังอยู่ห่างออกไปเพียง 104 กิโลเมตรในทางทิศใต้ของหัวหินซึ่งเป็นชายหาดสำหรับพักตากอากาศที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ที่นี่มีที่พักอยู่มากมาย และคุณสามารถเลือกพักในบังกะโลที่เรียบง่ายหรือรีสอร์ทหรูก็ได้
แม้ว่าฤดูฝนที่ชัดเจนจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงตุลาคม แต่อุณหภูมิของที่นี่ก็ยังคงอบอุ่นตลอดทั้งปี และการว่ายน้ำก็เป็นกิจกรรมที่เพลิดเพลินอยู่เสมอในประจวบคีรีขันธ์