หอศิลป์บอร์เกเซอันทรงเกียรติได้รวบรวมผลงานศิลปะที่มีความโดดเด่นไว้มากมาย รวมถึงผลงานชิ้นโบว์แดงของทิเชียนและราฟาเอล และประติมากรรมโดยศิลปินชื่อก้องอย่ากาโนวาและการาวัจโจ ชื่นชมพื้นโมเสกตามแบบฉบับของอาณาจักรโรมันโบราณ และลวดลายนูนต่ำที่สวยงาม พลางเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นรอบสวนในหอศิลป์
เดินลัดเลาะผ่านสวนสวยงามตรงไปยังหอศิลป์ที่โดดเด่นสะดุดตา ซึ่งเป็นตึกรูปแบบคฤหาสน์ที่มีความหรูหราด้วยสถาปัตยกรรมโรมันโบราณสีขาวสะอาดตา คฤหาสน์หลังนี้แต่ก่อนเคยเป็นสมบัติของคาร์ดินัล สคิปิโอเน บอร์เกเซ ผู้ที่เป็นนักสะสมผลงานศิลปะตัวยง และได้รวบรวมผลงานศิลปะไว้จำนวนมากขณะที่ยังดำรงชีวิตอยู่ ซึ่งส่วนมากก็ยังคงมีการแสดงไว้ในหอศิลป์แห่งนี้
ย่างกรายเข้าไปภายในหอศิลป์ แล้วสำรวจชั้นแรกก่อน ซึ่งที่นั่นคุณจะได้เห็นแม่ลายสีทองอันอ่อนช้อยตกแต่งไว้บนฝาผนัง บนพื้นก็มีกระเบื้องโมเสกที่ปูเป็นรูปนักต่อสู้ในสนามรบสมัยโรมัน รวมทั้งภาพลายนูนต่ำบนผนังรูปโรมูลุสที่กำลังได้รับการต้อนรับบนเขาโอลิมปัส
เดินต่อเข้ามายังห้องแรกที่ซึ่งมีรูปปั้นน้องสาวของนโปเลียนนอนเอนกายเปลือยท่อนบนอยู่บนโซฟา ส่วนในห้องอื่นๆ คุณจะได้เห็นผลงานประติมากรรมในยุคศตวรรษที่ 17 ที่สรรค์สร้างโดยจิอาน ลอเรนโซ เบอร์นินิ ซึ่งถ่ายทอดตำนานเรื่องราวของพวกลัทธินอกศาสนาไว้อย่างชัดเจน กวาดตามองหารูปปั้นแดฟนีพร้อมมือที่กำลังกลายเป็นใบไม้ และรูปปั้นพลูโตที่กำลังคว้าจับเพอร์เซโฟนีที่กำลังดิ้นหนี
เสร็จแล้วขึ้นบันไดมายังชั้นสอง เพื่อค้นพบภาพวาดยุคเรอเนสซองส์ที่แขวนเรียงยาว หนึ่งในภาพวาดที่มีความโดดเด่นที่สุด คือ ภาพวาด The Deposition และ Lady with a Unicorn ของราฟาเอล ซึ่งทั้งสองภาพถูกวาดขึ้นมาในปี 1507 นอกจากนี้ยังมีภาพวาดโดดเด่นอื่นๆ เช่น Madonna and Child โดยเปรูจีโน และภาพวาดชิ้นเอกในศตวรรษที่ 16 ของทิเชียนอย่าง Sacred and Profane Love
หอศิลป์บอร์เกเซเปิดตั้งแต่วันอังคารถึงวันอาทิตย์ และมีค่าเข้าชมเล็กน้อย โดยจะมีการเปิดให้เข้าชมทุกๆ 2 ชั่วโมง ดังนั้นคุณจึงควรจะจองตั๋วมาก่อนล่วงหน้า เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลายืนคอย คุณสามารถมาที่แห่งนี้ได้โดยนั่งรถโดยสารประจำทางจากใจกลางเมืองมาลงที่ถนนปินซิอานา และเดินมาจากที่นั่นอีกไม่นานก็จะถึงหอศิลป์บอร์เกเซ